กรุงเทพฯ – วิกฤตศรัทธาในวงการสงฆ์ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง ล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 ก.ค. 2568) ในที่ประชุมวุฒิสภา นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. ได้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลถึงแนวทางการแก้ปัญหาพระชั้นผู้ใหญ่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยจนศาสนาเสื่อมเสีย
รัฐบาลเร่งร่างกฎหมายใหม่ เอาผิดพระและสีกาที่เสพเมถุน
นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นตอบกระทู้ โดยยอมรับว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดเอาผิดพระภิกษุสงฆ์ที่เสพเมถุน หรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระได้โดยตรง ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่ง ร่างพระราชบัญญัติสงฆ์โดยด่วน เพื่อเพิ่มบทลงโทษพระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงถึงขั้นจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้สีกาที่ร่วมกระทำผิดต้องมีความผิดด้วยเช่นกัน
แก้ที่ต้นเหตุ! ห้ามพระถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท เริ่ม 1 ต.ค. นี้
เกี่ยวกับข้อสังเกตที่ว่า ปัญหาการหลอกลวงหรือแบล็กเมล์พระสงฆ์อาจมีสาเหตุมาจากการที่พระมีเงินและทรัพย์สินมาก นายสุชาติกล่าวว่า ต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยจะมีการออก กฎกระทรวง กำหนดให้เงินทุกบาททุกสตางค์ของวัดต้องนำเข้าบัญชีธนาคาร โดย วัดอาจจะถือเงินสดไว้ใช้จ่ายได้ แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งมหาเถรสมาคมได้ออกเป็นกฎกระทรวงแล้ว และจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 นี้เป็นต้นไป
รมต.สุชาติ หารือ มส. เตรียมปรับแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์
หลังจากตอบกระทู้ในสภา ช่วงบ่ายวานนี้ นายสุชาติได้เดินทางไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม เพื่อเข้าสักการะและขอคำแนะนำจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งท่านต้องการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทำงานบูรณาการร่วมกับ มส. และตำรวจ โดยให้นำข้อมูลมาให้เจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการ
นายสุชาติยังกล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. … ว่า ที่ประชุม มส. เห็นควรให้ ไปปรับแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์แทน เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายเอาผิดผู้ล่อลวงพระไปเสพเมถุนได้ โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ได้มอบให้ พศ. ศึกษาว่า มาตรา 206 ตามประมวลกฎหมายอาญา สามารถนำมาบังคับใช้ในกรณีนี้ได้หรือไม่ และกำชับให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด