สวนสัตว์เดนมาร์กเปิดแคมเปญบริจาคสัตว์เลี้ยงใกล้ตายเป็นอาหารสัตว์กินเนื้อ ชี้คือ ‘การุณยฆาตอย่างอ่อนโยน’

สวนสัตว์อัลบอร์ก (Aalborg Zoo) ในประเทศเดนมาร์กได้จุดประเด็นถกเถียงในโซเชียลมีเดีย หลังเปิดตัวแคมเปญให้ประชาชนบริจาคสัตว์เลี้ยงที่ใกล้เสียชีวิต เพื่อนำไปเป็น “เหยื่อ” ให้กับสัตว์กินเนื้อในสวนสัตว์ โดยใช้คำว่า “การุณยฆาตอย่างอ่อนโยน” (A soft euthanasia) ในการประชาสัมพันธ์

ทางสวนสัตว์ยืนยันว่านี่คือ ห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติ เพราะสัตว์นักล่าอย่างเสือ สิงโต และตัวลิงซ์ จำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์เพื่อดำรงชีวิต โดยสัตว์ที่สามารถบริจาคได้มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่ไก่, กระต่าย, หนูตะเภา ไปจนถึงม้า โดยสวนสัตว์จะทำการการุณยฆาตให้สัตว์ที่ถูกบริจาคก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทรมาน


โลกออนไลน์ประณามว่าเป็น ‘นวัตกรรมน่ารังเกียจ’

แม้ทางสวนสัตว์จะยืนยันว่านี่เป็นวัฏจักรตามธรรมชาติ แต่ก็มีกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงบนโลกออนไลน์ โดยหลายคนประณามว่าเป็น “นวัตกรรมที่น่ารังเกียจ” และมองว่าการนำสัตว์เลี้ยงที่รักไปเป็นอาหารให้สัตว์อื่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

แต่ เปีย นีลสัน (Pia Nielsen) รองผู้อำนวยการสวนสัตว์อัลบอร์ก ชี้แจงว่านี่เป็นนโยบายที่สวนสัตว์ใช้มานานแล้ว โดยย้ำว่าสัตว์กินเนื้อมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ และสวนสัตว์หลายแห่งทั่วโลกก็ใช้วิธีคล้ายกันนี้ในการจัดการอาหารสัตว์


สะท้อนมุมมองที่ต่างกันของยุโรปและอเมริกา

เหตุการณ์นี้ทำให้นักวิชาการย้อนไปถึงกรณีเมื่อปี 2012 ที่สวนสัตว์โคเปนเฮเกนทำการการุณยฆาตยีราฟ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางปรัชญาในเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ระหว่างยุโรปและอเมริกา โดยในยุโรปมักนิยมให้สัตว์ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ และอาจต้องทำการการุณยฆาตสัตว์ส่วนเกินในภายหลัง ส่วนในสหรัฐฯ มักจะเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดเพื่อควบคุมจำนวนประชากรสัตว์แทน

โฆษณา

Loading Next Post...
ติดตาม
Search Trending
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...