ผบ.ตร.ยันอนุญาตชุมนุมช่วง “SONA” 2025 หากถูกกฎหมาย ท่ามกลางการประท้วงต่อนโยบายมาร์กอส จูเนียร์

มะนิลา, ฟิลิปปินส์ – พล.ต.อ. นิโคลาส ตอร์เร่ ที่ 3 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PNP) ประกาศว่า การชุมนุมระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีครั้งที่ 4 (State of the Nation Address – SONA) ของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ในวันที่ 28 ก.ค. 2568 จะได้รับอนุญาต หากดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย ท่ามกลางการประท้วงจากกลุ่มก้าวหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ในการแถลงข่าวที่ค่ายคราเม่เมื่อเช้าวันจันทร์ พล.ต.อ. ตอร์เร่ ระบุว่า PNP ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 16,000 นาย พร้อมกำลังเสริม 7,000 นายจากหน่วยงานรัฐอื่น เพื่อรักษาความปลอดภัยในงานแถลงนโยบายที่จัดขึ้นที่อาคารบาตาซัง ปัมบานซา ซึ่งเป็นการเปิดสมัยประชุมแรกของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 20. “เราจะใช้มาตรการผ่อนปรนสูงสุด แต่หากประชาชนต้องการแสดงความคิดเห็นหรือข้อเรียกร้องภายในขอบเขตของกฎหมาย เราจะปกป้องสิทธิ์ในการชุมนุมของพวกเขา” เขากล่าว

---

การประท้วงและข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ

กลุ่มก้าวหน้า เช่น Bagong Alyansang Makabayan (BAYAN) ประกาศจัดการชุมนุมที่ถนน Commonwealth Avenue ใกล้โบสถ์ Saint Peter’s Parish เพื่อเรียกร้องให้มาร์กอสรับผิดชอบต่อคำสัญญาที่ไม่สำเร็จในช่วงสามปีที่ผ่านมา มง ปาลาติโน เลขาธิการ BAYAN ระบุว่า พวกเขาจะนำหุ่นจำลองชื่อ “Bongbong Mambubudol” ซึ่งมีใบหน้าของมาร์กอสและภาพประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อแสดงถึงการต่อต้านความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ รวมถึงเรียกร้องให้สภาเริ่มการไต่สวนถอดถอนรองประธานาธิบดีซารา ดูเตร์เต ซึ่งถูกศาลฎีกาตัดสินว่าคดีถอดถอนขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ กลุ่มอื่นๆ เช่น Kilusang Mayo Uno (KMU) และ Alliance of Concerned Teachers วางแผนประท้วงที่ถนน Tandang Sora และใกล้กรมปฏิรูปที่ดินในเมืองเกซอน เพื่อเรียกร้องค่าแรงที่เป็นธรรมและการปฏิรูปการศึกษา ขณะที่กลุ่ม Health Alliance for Democracy และกลุ่มจากภูมิภาคต่างๆ เช่น บาเกียว อิโลอิโล และดาเวา ก็จะจัดการชุมนุมในเวลาเดียวกัน. กลุ่มผู้บริโภคของ PrimeWater ซึ่งเป็นบริษัทน้ำของตระกูลวิลลาร์ จะเข้าร่วมประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัทดังกล่าว

---

คำเตือนเรื่องการเผาหุ่นจำลอง

พล.ต.อ. ตอร์เร่ เตือนถึงการเผาหุ่นจำลอง โดยอ้างถึงกฎหมายสิ่งแวดล้อม เช่น พระราชบัญญัติการจัดการขยะมูลฝอยเชิงนิเวศน์ พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติอากาศบริสุทธิ์ พ.ศ. 2542 ว่า “การเผาสิ่งของบนถนนอาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น สะเก็ดไฟที่อาจลุกลามไปยังยานพาหนะ” การเตือนนี้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของ PNP ในช่วง SONA ปีก่อนๆ ที่ห้ามการเผาหุ่นจำลองเพื่อรักษาความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

---

บริบทการเมืองและการประท้วงที่ผ่านมา

การประท้วงในช่วง SONA เป็นประเพณีที่เกิดขึ้นทุกปีในฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ต่อต้านนโยบายของรัฐบาล ในปี 2567 การประท้วงต่อต้านมาร์กอส จูเนียร์ มุ่งเน้นไปที่ประเด็นค่าแรงที่ต่ำเกินไป การจัดการปัญหาทะเลจีนใต้ และการล่มสลายของพันธมิตรทางการเมืองกับรองประธานาธิบดีซารา ดูเตร์เต ซึ่งไม่ได้เข้าร่วม SONA 2024 และ 2025 โดยอ้างว่าเธอไม่เชื่อว่ามาร์กอสจะนำเสนอสิ่งที่ “เป็นสาระสำคัญ”. นอกจากนี้ การประท้วงยังเชื่อมโยงกับการต่อต้านมรดกของตระกูลมาร์กอส โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุคกฎอัยการศึกของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์

ในปี 2568 การประท้วงยังได้รับอิทธิพลจากสถานการณ์ภัยพิบัติล่าสุด เช่น น้ำท่วมจากพายุหมุนเขตร้อนและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้มาร์กอสสั่งให้หน่วยงานรัฐยกเลิกการเตรียมงาน SONA เพื่อมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้ประสบภัย. กลุ่มผู้ประท้วงบางส่วน เช่น กลุ่มจาก Southern Tagalog ยังวิจารณ์การตัดสินใจของศาลฎีกาที่ระบุว่าคดีถอดถอนซารา ดูเตร์เต ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

---

ความปลอดภัยและการเตรียมการ

PNP ได้เริ่มติดตั้งเต็นท์และจุดบัญชาการเคลื่อนที่ที่ถนน Commonwealth Avenue ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2568 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรักษาความปลอดภัย. รายงานระบุว่ามีการอนุญาตให้ 3 กลุ่มจัดการชุมนุมอย่างเป็นทางการ และการประท้วงคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 4,000 คน ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนในปี 2566 ที่การประท้วงดำเนินไปอย่างสงบ. อย่างไรก็ตาม มีการเตือนถึงการจราจรที่อาจติดขัดในเมืองเกซอน และแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่รอบอาคารบาตาซัง ปัมบานซา

การแถลงนโยบาย SONA 2025 ของมาร์กอส จูเนียร์ คาดว่าจะเผชิญกับการประท้วงจากกลุ่มต่างๆ ที่เรียกร้องการปฏิรูปเศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระมากขึ้น แม้ PNP จะยืนยันถึงการอนุญาตให้ชุมนุมอย่างถูกกฎหมาย แต่การรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดเพื่อป้องกันความรุนแรงหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย การประท้วงครั้งนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดทางการเมืองในฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะความไม่พอใจต่อการบริหารของมาร์กอสและมรดกทางการเมืองของตระกูลเขา

ที่มา: Inqnews