ชื่อของ เฉิน จื้อ (Chen Zhi) และอาณาจักรธุรกิจ Prince Group กำลังสั่นสะเทือนไปทั่วโลก หลังจากที่สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรประกาศมาตรการคว่ำบาตรและยึดทรัพย์สินจากนักธุรกิจเชื้อสายจีน-กัมพูชา วัย 38 ปี ผู้นี้ ในข้อหาเป็นหัวหน้าขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ, ฟอกเงิน และบังคับใช้แรงงานอย่างโหดเหี้ยม
เบื้องหน้า เขาคือ “อัจฉริยะนักธุรกิจ” ผู้พลิกโฉมเมืองสีหนุวิลล์, ที่ปรึกษาคนสำคัญของอดีตนายกฯ ฮุน เซน และนายกฯ คนปัจจุบัน ฮุน มาเนต รวมถึงเป็นนายทุนสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่เบื้องหลัง เขาคืออาชญากรที่รัฐบาลจีนต้องการตัว และเป็นผู้บงการเครือข่ายหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เส้นทางสู่เจ้าชาย: การผงาดขึ้นของ เฉิน จื้อ
เฉิน จื้อ เกิดเมื่อปี 1987 ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน เขาเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจจากการเป็น เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เล็กๆ ก่อนจะมองเห็นโอกาสและก้าวเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาเมื่อปี 2011
- ปี 2014: เฉินได้รับ สัญชาติกัมพูชา ผ่านการลงทุนหรือบริจาคเงินให้รัฐบาลราว 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเขาเติบโตอย่างก้าวกระโดด
- ปี 2015: เขาก่อตั้ง Prince Group ในกรุงพนมเปญ และกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนโฉมเมืองตากอากาศที่เงียบเหงาอย่าง สีหนุวิลล์ ให้กลายเป็นเมืองแห่งคาสิโน ที่เต็มไปด้วยแสงสี
- ขยายอาณาจักร: จากความสำเร็จดังกล่าว เขาได้ขยายธุรกิจไปสู่คอนโดมิเนียม, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ธนาคาร และศูนย์การค้ามากมาย
สานสัมพันธ์อำนาจ: เครือข่ายการเมืองที่แข็งแกร่ง
ความสำเร็จทางธุรกิจของเฉินเติบโตควบคู่ไปกับบทบาททางการเมืองที่ทรงอิทธิพล เขาสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับชนชั้นนำทางการเมืองของกัมพูชาอย่างลึกซึ้ง:
- ที่ปรึกษาคนสำคัญ: เฉินได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษาของอดีตนายกฯ ฮุน เซน และปัจจุบันยังคงเป็นหนึ่งใน ที่ปรึกษา 104 คนของนายกฯ ฮุน มาเนต ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรี
- ธุรกิจร่วมกับลูกชายนักการเมือง: เขาได้ร่วมทุนกับ ซาร์ โศกา (ลูกชายของ ซาร์ เค็ง อดีต รมว.มหาดไทยที่ทรงอิทธิพลยาวนาน) เปิด Jin Bei Group ซึ่งเป็นธุรกิจคาสิโนและโรงแรมมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สัญลักษณ์แห่งความใกล้ชิด: ในการประชุมอาเซียนปี 2022 ฮุน เซน ได้สวมนาฬิการุ่น Limited Edition มูลค่า 20,000 ดอลลาร์ จากแบรนด์ Prince Horology ซึ่งเป็นบริษัททำนาฬิกาของเฉินเอง
อาณาจักรในเงา: เบื้องหลังดำมืดของ Prince Group
แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูสวยหรู แต่สารคดีเชิงสืบสวนของ Radio Free Asia (RFA) และข้อกล่าวหาจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เปิดโปงเบื้องหลังอันดำมืดของ Prince Group ว่าเป็นเพียงฉากบังหน้าของ ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ขนาดมหึมา
- รัฐบาลจีนขึ้นบัญชีดำ: ศาลอาญาของจีนได้ตั้งข้อกล่าวหา Prince Group ว่าเป็น “กลุ่มอาชญากรรมพนันออนไลน์ข้ามชาติ” ที่สร้างรายได้ผิดกฎหมายกว่า 700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) ในช่วงปี 2020-2022
- ฐานปฏิบัติการสแกมเมอร์: ข้อกล่าวหาระบุว่า Prince Group ได้สร้างศูนย์บัญชาการสแกมเมอร์หลายแห่ง เช่น ที่ Golden Fortune ซึ่งภายนอกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม ภายในมีการบังคับใช้แรงงานชาวต่างชาติให้ทำงานหลอกลวงในรูปแบบ “Pig Butchering” (ขุนเหยื่อให้ไว้ใจแล้วเชือด)
- ความรุนแรงและการค้ามนุษย์: มีคำให้การจากอดีตพนักงานและชาวบ้านว่า พบเห็นการใช้ความรุนแรงกับพนักงานที่พยายามหลบหนี ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของสหประชาชาติ (UN) ที่ชี้ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางของการค้ามนุษย์เพื่อนำมาใช้ในขบวนการสแกมเมอร์
ภัยคุกคามระดับโลก: ทำไมมหาอำนาจต้องเคลื่อนไหว?
สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศในอาเซียน อธิบายว่า การที่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรต้องออกมาคว่ำบาตรอย่างจริงจัง เป็นเพราะปัญหานี้ได้กลายเป็น ภัยคุกคามระดับโลก (Global Threat) ไปแล้ว
เครือข่ายของ Prince Group ไม่ได้หยุดอยู่แค่การหลอกลวงประชาชนทั่วไป แต่ยังขยายไปถึง การฟอกเงินให้กับศัตรูของสหรัฐฯ (เช่น เกาหลีเหนือ) และการหลอกลวงพลเมืองอเมริกันโดยตรง ทำให้ปัญหานี้กลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติมหาอำนาจ
การคว่ำบาตร เฉิน จื้อ และ Prince Group จึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้กัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งเป็นสมรภูมิใหม่ที่ทั่วโลกกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด