จีนประกาศกร้าว “พร้อมสู้จนถึงที่สุด” ในสงครามการค้า แต่เปิดประตูเจรจาหากสหรัฐฯ จริงใจ

วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ทางการจีนได้ประกาศจุดยืนอย่างแข็งกร้าวว่าพร้อมที่จะต่อสู้จนถึงที่สุดในสงครามการค้ารอบใหม่กับสหรัฐอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเปิดประตูสำหรับการเจรจา ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 100%

โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า จุดยืนของจีนในเรื่องสงครามการค้าและภาษียังคงไม่เปลี่ยนแปลง “หากอีกฝ่ายต้องการสู้ จีนก็จะสู้จนถึงที่สุด แต่หากต้องการเจรจา ประตูของเราก็ยังเปิดอยู่เสมอ” โฆษกฯ กล่าว พร้อมย้ำว่า “สหรัฐฯ ไม่สามารถพูดเรื่องการเจรจาไปพร้อมกับการข่มขู่ด้วยมาตรการจำกัดใหม่ๆ ได้ เพราะนั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการปฏิสัมพันธ์กับจีน”

ความตึงเครียดรอบล่าสุดปะทุขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ต.ค.) เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่าจะเรียกเก็บภาษี 100% เพิ่มเติมจากอัตราเดิมที่มีอยู่ สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด การตัดสินใจนี้เป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare earths) เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่จีนครองความได้เปรียบในตลาดโลก

กระทรวงพาณิชย์จีนยืนยันว่า การจำกัดการส่งออกแร่หายากเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายและกฎระเบียบ เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ และเน้นย้ำว่าจีนในฐานะประเทศมหาอำนาจจะดำเนินการอย่างรอบคอบและพอประมาณเพื่อปกป้องความมั่นคงของตนเองและของนานาชาติ

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจากทางการจีนระบุว่า ยอดการส่งออกทั่วโลกในเดือนกันยายนขยายตัว 8.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 6 เดือนและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะการส่งออกไปยังสหรัฐฯ กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง โดยลดลงถึง 27% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากสงครามภาษีที่ดำเนินอยู่

ปัจจุบัน สถานการณ์ภาษีมีความซับซ้อน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะเพิ่มภาษีอีก 100% จากอัตราเดิมที่สูงอยู่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายประเมินว่าอัตราภาษีเฉลี่ยที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนอยู่ที่ประมาณ 51%

ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้กลายเป็นวาระสำคัญในการประชุมครึ่งปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งกำลังจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ขณะที่ทำเนียบขาวยังคงยืนยันว่าผลกระทบจากมาตรการภาษีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น “อยู่ในระดับจำกัด” และจะเป็นผลดีต่อประเทศในระยะยาว