วันที่ 16 ก.ค. 2568 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย ยกคำร้อง ในคดีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับอำเภอ ของอำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ โดย กกต. ชี้ว่าไม่พบหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ว่าผู้สมัคร สว. ทั้ง 20 กลุ่มอาชีพรวม 206 คน กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ข้อกล่าวหาไร้น้ำหนัก: ผู้ร้องไร้หลักฐาน-ผู้สมัครยืนยันคุณสมบัติครบ
คดีนี้ผู้ร้องได้กล่าวหาผู้สมัคร สว. ทั้ง 206 คน ว่ารู้อยู่แล้วว่าตนไม่ใช่บุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครมาไม่น้อยกว่า 10 ปี แต่ยังลงสมัคร อีกทั้งยังมีการจัดทำ เสนอให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดเพื่อจูงใจผู้อื่นให้สมัครหรือถอนการสมัคร หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด รวมถึงเรียกรับหรือยอมรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อเลือกหรืองดเว้นไม่เลือกผู้ใด ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 13 (3) ถึง (20) มาตรา 74 มาตรา 77 (1) และมาตรา 81
อย่างไรก็ตาม กกต. ระบุว่า จากการไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน พบว่า ผู้ร้องไม่ประสงค์จะให้ถ้อยคำสนับสนุนคำร้อง ทำให้คำร้องไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้สมัครที่ถูกร้องทั้ง 20 ราย ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ลงสมัครเพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย และมีความรู้ความเชี่ยวชาญในกลุ่มอาชีพที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยมีบุคคลลงลายมือชื่อรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญ
สอบธุรกรรมการเงินไม่พบพิรุธ ยันจัดตั้งกลุ่มไม่ได้จริง
ผลการสอบปากคำพยานประกอบพบว่า แม้ผู้สมัครบางคนจะไม่ได้ระบุระยะเวลาประกอบอาชีพในกลุ่มที่สมัครอย่างชัดเจน หรือผู้รับรองบางคนไม่ทราบว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงตามที่ กกต. กำหนดหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่จะทราบว่าผู้สมัครประกอบอาชีพทำนา เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จึงลงลายมือชื่อรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญ
ที่สำคัญ เมื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงินของผู้สมัคร ไม่พบข้อมูลน่าสงสัยหรือน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือก สว.
ในส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าผู้ถูกร้องทั้งหมดจัดตั้งกลุ่มมาสมัครโดยการตกลงกันเพื่อลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครในกลุ่มเดียวกันนั้น กกต. ชี้ว่า จากการไต่สวนผู้ถูกร้องทั้ง 20 ราย ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ลงสมัครตามความประสงค์ของตนเอง ไม่เคยชักชวนบุคคลใดมาสมัคร ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้สมัคร หรือใครให้มาสมัคร หรือให้ลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายใด รวมถึงออกค่าใช้จ่ายในการถ่ายรูปและค่าสมัครเองทั้งหมด นอกจากนี้ พยานประกอบซึ่งเป็นกรรมการชุมชนและผู้รับรอง ก็ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่าไม่ทราบว่ามีการให้เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ เพื่อจูงใจให้สมัครรับเลือกเป็น สว.
จากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้สมัครบางส่วนยังไม่พบข้อมูลที่น่าสงสัยหรือน่าเชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันได้ว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกร้องทั้ง 206 คน กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 13 (3) ถึง (20) มาตรา 74 มาตรา 77 (1) และมาตรา 81