น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หรือ \”โอ๋ สุดซอย\” ได้เปิดเผยความคืบหน้าครั้งสำคัญผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีมติรับคดีการลักลอบนำเข้า \”ฝุ่นแดง\” หรือกากอุตสาหกรรมอันตราย เป็นคดีพิเศษแล้ว ภายหลังการบูรณาการการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน จนสามารถทลายเครือข่ายข้ามชาติที่ใช้เอกสารราชการปลอมลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงมาแล้วกว่า 10,000 ตัน
น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุว่า ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ที่ปรึกษาโครงการฯ DSI ว่ากรณีการตรวจยึดตู้สินค้าฝุ่นแดงจำนวน 700 ตัน จากประเทศโมร็อกโก ที่ท่าเรือกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะนี้ DSI ได้รับเป็นคดีพิเศษ เลขที่คดี 70/2568 เพื่อดำเนินการสอบสวนแบบขุดรากถอนโคนทั้งขบวนการ
จุดเริ่มต้นของคดีนี้มาจากการที่เจ้าหน้าที่สงสัยตู้สินค้าของ บริษัท KMC 1953 จำกัด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่สำแดงรายการเป็น ZINC CONCENTRATE แต่คาดว่าเป็นการสำแดงเท็จ เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าเป็นของเสียเคมีวัตถุตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเข้าตรวจสอบจนบริษัทฯ ยอมรับและเปิดเผยข้อมูลเครือข่าย
จากการสืบสวนขยายผลโดยทีม \”สุดซอย\” ร่วมกับ บก.ปทส. และ DSI ในเดือนมีนาคม พบว่าเครือข่ายนี้มี น.ส.เจน สัญชาติจีน เป็นนายหน้าคนสำคัญ จัดหาฝุ่นแดงจากหลายประเทศเข้ามายังไทย โดยมีบริษัท KMC 1953 เป็นผู้นำเข้า และมีบริษัทชิปปิ้งจัดการเอกสารผ่านด่านศุลกากร จากนั้นจะมีบริษัทโบรกเกอร์ 3 แห่ง รับไปกระจายต่อให้กับโรงงานปลายทางใน จ.สมุทรสาคร และ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับ น.ส.เจน
ขบวนการนี้ได้ใช้เอกสารราชการปลอมที่ออกโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ถึง มกราคม 2568 รวมปริมาณกว่า 10,000 ตัน มูลค่านำเข้ากว่า 45 ล้านบาท และยังได้รับการยกเว้นภาษี เมื่อนำฝุ่นแดงมาสกัดแร่สังกะสี (Zinc) เพื่อส่งออก จะสามารถสร้างมูลค่าได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
ล่าสุด กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำลังดำเนินการผลักดันฝุ่นแดงล็อตล่าสุด 700 ตัน กลับไปยังประเทศต้นทาง และได้ร่วมกับกรมศุลกากรร้องทุกข์กล่าวโทษไปยัง DSI เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารราชการปลอมก็อยู่ระหว่างการพิจารณาโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงและดำเนินคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง