ด่วน! สุรินทร์ ประกาศ “ภัยสงคราม” จังหวัดแรก ยกระดับเทียบเท่าภัยพิบัติ ดูแลประชาชนจากสถานการณ์ชายแดน

การเมือง6 days ago96 Views

สุรินทร์, 27 ก.ค. 2568 – จังหวัดสุรินทร์ได้ออกประกาศด่วนที่สุด ยกระดับสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเป็น “ภัยสงคราม” ซึ่งเทียบเท่ากับการประกาศภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถใช้จ่ายงบประมาณและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะได้อย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว

นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ลงนามในประกาศดังกล่าวถึงนายอำเภอทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ เพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติของ อปท. ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงที่ทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


สถานการณ์รุนแรงและคาดว่าจะทวีความรุนแรง

เอกสารระบุว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการปะทะตลอดแนวชายแดนอำเภอบัวเชด, สังขะ, กาบเชิง และพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ด้วยอาวุธหลายชนิด รวมถึงมีการโจมตีสถานที่สำคัญ เช่น สถานบริการสาธารณสุข, สถานีบริการน้ำมัน, ร้านสะดวกซื้อ และพื้นที่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


แนวทางปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชน

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์จึงได้ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติสำหรับ อปท. ดังนี้:

  1. ดูแลความปลอดภัยสูงสุด: ให้ อปท. ดำเนินการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย และให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน
  2. ถือเป็น “สาธารณภัย”: กรณีเหตุการณ์ปะทะที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ ถือเป็น “สาธารณภัย” ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 4 และตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2562 ข้อ 5 ทำให้ อปท. สามารถใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ พ.ศ. 2566 ข้อ 7, ข้อ 19 (1) และข้อ 21 รวมถึงหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ได้
    • อปท. ในพื้นที่ มีหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตท้องถิ่นของตน โดยมีผู้บริหารท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่น และมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้อำนวยการจังหวัดและผู้อำนวยการอำเภอตามที่ได้รับมอบหมาย
  3. การใช้จ่ายงบประมาณกรณีฉุกเฉิน: หากเกิดสาธารณภัยฉุกเฉิน อปท. สามารถใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง ประเภทเงินสำรองจ่ายได้ และหากงบกลางไม่เพียงพอ ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถอนุมัติให้ จ่ายขาดเงินสะสม ได้ตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงฐานะการเงินของ อปท.
  4. ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อพยพ: กรณีผู้ประสบภัยจากพื้นที่เกิดภัยได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่อื่น อปท. สามารถให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพได้ ตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการฯ พ.ศ. 2563 โดยจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น และให้รายงานผู้กำกับดูแลเพื่อทราบและพิจารณาดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

การประกาศ “ภัยสงคราม” ครั้งนี้ของจังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยให้กลไกของภาครัฐในระดับท้องถิ่นสามารถตอบสนองและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งได้อย่างคล่องตัวและทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น

โฆษณา

Loading Next Post...
ติดตาม
Search Trending
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...