ประชาคมระหว่างประเทศกำลังยกระดับแรงกดดันต่อรัฐบาลกัมพูชาอย่างหนักให้เร่งปราบปรามขบวนการหลอกลวงออนไลน์ (Scammer) ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ทั่วประเทศ โดยล่าสุดมีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญจากฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่มีการเสนอร่างกฎหมายเพื่อ ขึ้นบัญชีดำประเทศกัมพูชา และ คว่ำบาตรบุคคลใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้
The Cambodia Daily รายงานเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน 3 คน ได้เสนอญัตติร่างกฎหมายต่อคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ เพื่อเรียกร้องให้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐและนักธุรกิจชาวกัมพูชาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรายชื่อที่ถูกพุ่งเป้ามีทั้งบุคคลในครอบครัวและผู้มีความภักดีต่อ สมเด็จฮุน เซน อาทิ:
ญัตติดังกล่าวยังมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจของสหรัฐฯ เพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรรมที่พุ่งเป้าหลอกลวงชาวอเมริกันโดยเฉพาะ
เนื้อหาบนเว็บไซต์สภาคองเกรสสหรัฐฯ ระบุว่า องค์กรอาชญากรรมจีนได้ใช้ช่วงการระบาดของโควิด-19 ยกระดับกลโกงทางการเงิน โดยใช้กลยุทธ์ “เชือดหมู” (Pig Butchering) ที่หลอกสร้างความสัมพันธ์ออนไลน์กับเหยื่อ ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนในแพลตฟอร์มปลอม และสูบเงินจนหมดตัว
ฐานปฏิบัติการเหล่านี้กระจุกตัวอยู่ในเมียนมา, ลาว และกัมพูชา ซึ่งสร้างความเสียหายมหาศาล โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชี้ว่า เฉพาะในปี 2567 ชาวอเมริกันสูญเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3.2 แสนล้านบาท) ขณะที่ความเสียหายทั่วโลกคาดว่าสูงกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (กว่า 1.9 ล้านล้านบาท)
แรงกดดันจากนานาชาติที่หนักหน่วงขึ้น โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์ “เฉิน จื้อ” ประธาน Prince Group และการที่เกาหลีใต้ส่งทีมเฉพาะกิจเข้าประเทศ ทำให้กลุ่มอาชญากรในกัมพูชาเริ่มเคลื่อนไหว
หนังสือพิมพ์ “จุงอัง อิลโบ” ของเกาหลีใต้ ระบุว่า ตำรวจเกาหลีใต้สงสัยว่ากลุ่มอาชญากรในกัมพูชา เริ่มย้ายฐานปฏิบัติการ หนีการกวาดล้าง โดยเฉพาะในพื้นที่สีหนุวิลล์ มีรายงานว่าเริ่มมีการเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ และอาจมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ในสถานที่ตั้งแห่งใหม่ล่วงหน้า
นักวิเคราะห์มองว่ามี 3 ทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับ “รังใหม่” ของสแกมเมอร์:
สถานการณ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นภาพของ “ฝูงผึ้งแตกรัง” ที่กำลังกระจายตัวหนีการปราบปราม ซึ่งแม้จะเป็นสัญญาณที่ดีว่าแรงกดดันจากนานาชาติได้ผล แต่ก็เป็นความท้าทายครั้งใหม่ในการติดตามและทลายเครือข่ายเหล่านี้ที่อาจย้ายไปสร้างความเสียหายในพื้นที่อื่นต่อไป