วันนี้ (16 ตุลาคม 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้หารือทางโทรศัพท์กับ นายอี แจมยอง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือความร่วมมือในหลายมิติ โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในปี 2568 พร้อมยืนยันว่าไทยยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการจัดการปัญหาขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การหารือดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่นายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ
นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณประธานาธิบดีเกาหลีใต้สำหรับสารแสดงความยินดี และได้ ตอบรับเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในปี 2568 พร้อมย้ำว่าไทยและเกาหลีใต้เป็นมิตรแท้ต่อกันมายาวนานกว่า 70 ปี นับตั้งแต่ไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมในสงครามเกาหลี ซึ่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้กล่าวว่าไม่เคยลืมความเสียสละของทหารไทยในครั้งนั้น
ผู้นำทั้งสองได้หารือถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันให้ถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันที่มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีไทยได้ขอให้เกาหลีใต้ช่วยเร่งรัดการเจรจา ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุน
ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือคือความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้กล่าวขอบคุณที่ไทยเคยให้ความช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกลวงในเมียนมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีอนุทินได้ย้ำจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “ไทยพร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปราม scammer อย่างเต็มที่” ซึ่งสอดคล้องกับที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความว่า “ไทยยินดีให้ความร่วมมือกับเกาหลีใต้ เพื่อจัดการปัญหาขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชา”
นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความยินดีกับแนวโน้มการลงทุนจากเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการของบริษัท ฮุนได, COSMAX และ LH ซึ่งจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมเกาหลีแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมรับรองว่าจะดูแลนักลงทุนเกาหลีใต้อย่างเต็มที่
นายสิริพงศ์กล่าวว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นมิตร ผู้นำทั้งสองได้เชิญอีกฝ่ายให้มาเยือนประเทศของตน และหวังว่าจะได้พบปะกันอีกครั้งในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่มาเลเซีย และการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งสะท้อนถึงสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของผู้นำทั้งสองประเทศ