25 ก.ค. 2568 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้อ่านแถลงการณ์ของรัฐบาลไทย แสดงความผิดหวังอย่างยิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้กำลังทางทหารก่อน และปฏิบัติการอย่างรุนแรง ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะการโจมตีโรงพยาบาลและพื้นที่ชุมชน ซึ่งส่งผลให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตถึง 13 ราย รวมถึงเด็ก สตรี และคนชรา ถือเป็น “อาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง” พร้อมเชิญชวนประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมนี้ และยืนยันไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมเยียวยาผู้เสียชีวิต 1 ล้านบาทต่อครอบครัว
นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวถึงสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังถูกคุกคามจากประเทศกัมพูชาว่า แม้ที่ผ่านมาไทยจะอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ และเลือกใช้สันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมแล้ว แต่เป็นที่น่าผิดหวังอย่างมากที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้กำลังทางทหารก่อน
การปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาถูกประณามว่าขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างรุนแรง ด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือนที่สำคัญ ทั้ง โรงพยาบาล และ พื้นที่ชุมชน ที่ประชาชนอาศัยอยู่ ซึ่งบางจุดเลยแนวชายแดนเข้ามามากกว่า 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนผู้บริสุทธิ์รวม 13 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก สตรี และคนชรา นอกจากนี้ทรัพย์สินของประชาชนยังได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง รัฐบาลไทยถือว่านี่คือ “อาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง”
นายภูมิธรรมระบุว่า เมื่อวานนี้ (24 กรกฎาคม 2568) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐบาลไทยได้มีหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและประณามการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลจึงขอเชิญชวนให้ประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมนี้
รัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียของพี่น้องประชาชน และยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาล กองทัพ และหน่วยราชการทุกหน่วย ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่น้อย
นับตั้งแต่เสียงกระสุนนัดแรกดังขึ้น กองทัพไทยได้มีการตอบโต้โดยจำกัดวงเฉพาะเป้าหมายทางทหารของกัมพูชา ตามหลักการปกป้องตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยได้ยิงทำลายสถานที่มั่นของทหารกัมพูชา
ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการ อพยพประชาชนที่ได้รับผลกระทบออกจากพื้นที่แล้วนับแสนคน พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ในการเยียวยาผู้สูญเสีย โดยครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งทหารและพลเรือน จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 1 ล้านบาท ผู้ทุพพลภาพ 700,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 200,000 บาท และผู้ได้รับบาดเจ็บมาก 100,000 บาท
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประกาศให้สายการบินทุกสายจัดเที่ยวบินเป็นพิเศษ เพื่อรับคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งกลับบ้านอย่างปลอดภัย รวมถึงการดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ตนจะลงพื้นที่ครอบคลุม 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าประชาชนในพื้นที่จะมีความปลอดภัย และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องในพื้นที่
เน้นย้ำว่า สถานการณ์ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อส่งกำลังใจให้ทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ทุกคนในการปกป้องอธิปไตย และประชาชนในพื้นที่ให้มีความปลอดภัย
รัฐบาลย้ำชัดว่า เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ความขัดแย้งในระดับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ และไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นการปะทะกันตามแนวชายแดน เพื่อปกป้องอธิปไตย และตอบโต้ผู้รุกราน.